ช่วงนี้ ! มีการระบาดของไข้หวัดรวมทั้งไข้หวัดใหญ่ค่อนข้างมาก เนื่องจากอากาศกำลังเปลี่ยนแปลง วันนี้ลองมาดูความแตกต่างของทั้งสองโรคนี้กันนะค่ะ
โดยทั่วไป ไข้หวัดใหญ่ มักจะมีอาการที่รุนแรงมากกว่า ไข้หวัดธรรมดา โดยสังเกตได้จากอาการและอาการแสดงดังต่อไปนี้
ไข้หวัดใหญ่มักมีอาการเกิดขึ้นทันทีทันใด ขณะที่ไข้หวัดธรรมดา อาจมีอาการค่อยเป็นค่อยไป เช่นเริ่มคัดจมูก มีน้ำมูก และอาจมีไข้ตามมา
อาการไข้ในไข้หวัดใหญ่มักมีไข้สูง เป็นหลายวัน อาจมีอาการหนาวสั่นสะท้านร่วมด้วย ขณะที่ไข้หวัดธรรมดา อาจมีไข้แต่ไม่สูงมากนัก
ไข้หวัดใหญ่ ทำให้เกิดอาการอ่อนเพลียอย่างมาก ขณะที่ไข้หวัดธรรมดา อาจมีเพียงอาการน่ารำคาญเท่านั้น
ไข้หวัดใหญ่มักมีอาการปวดเมื่อยตามข้อ และกล้ามเนื้อ รวมทั้งมีอาการปวดศีรษะ ขณะที่ไข้หวัดธรรมดา มักไม่มีอาการเหล่านี้
ผู้ที่เป็นไข้หวัดใหญ่มักมีอาการเบื่ออาหาร ขณะที่ไข้หวัดธรรมดา มักจะรับประทานอาหารได้ตามปกติ
อย่างไรก็ตาม อาการของไข้หวัด และไข้หวัดใหญ่ อาจมีลักษณะคล้ายคลึงกันมาก รวมทั้งแยกออกจากจากการติดเชื้อแบคทีเรียในทางเดินหายใจส่วนต้น ดังนั้น หากคุณสังเกตว่า ตัวคุณ หรือบุตรหลานของคุณ มีอาการไข้สูง อ่อนเพลีย และเป็นอยู่หลายวัน โดยมีแนวโน้มไม่ดีขึ้น ควรรีบปรึกษาแพทย์ ในปัจจุบัน มีการตรวจเลือดที่สามารถบอกได้ว่า อาการดังกล่าวเป็นอาการของไข้หวัดใหญ่หรือไม่ ในผู้ป่วยบางราย อาจจำเป็นต้องให้ยาต้านไวรัส ซึ่งจะได้ผลดีหากใช้ภายใน 48 ชม.แรกหลังได้จากเริ่มมีอาการ
( ที่มา : โรงพยาบาลกรุงเทพ )
ส่วนอาการของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 มีดังนี้
อาการใกล้เคียงกับอาการโรคไข้หวัดใหญ่ที่พบตามปกติ เช่น ไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ไอ เจ็บคอ อาจมีคลื่นไส้ อาเจียน และท้องเสียด้วย ผู้ป่วยส่วนใหญ่ร้อยละ 90-95 อาการไม่รุนแรง สามารถหายป่วยได้ โดยไม่ต้องนอนโรงพยาบาล แต่ผู้มีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิต ได้แก่ ผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น โรคระบบทางเดินหายใจ หอบหืด โรคหัวใจและหลอดเลือด เบาหวาน ผู้สูงอายุ เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ผู้ที่ภูมิต้านทานต่ำ ภาวะอ้วน และหญิงมีครรภ์