北 京 ปักกิ่ง
เมืองประวัติศาสตร์เก่าแก่ เดิมชื่อเป่ยผิง ( Beiping ) แปลว่า สันติภาพแห่งทิศอุทร ต่อมาเปลี่ยนเป็น เป่ยจิง ( Beijing ) แต่คนไทยสะดวกที่จะเรียกว่า ปักกิ่งมากกว่า คำว่า “เป่ยจิง” ซึ่งแปลว่าเมืองหลวงแห่งทิศอุดร ซึ่งตรงกับตำแหน่งที่ตั้งของเมือง เมื่อ 1000 ปีก่อนคริสตกาล ปักกิ่งเคยเป็นเมืองสำคัญทางการค้าของชาวมองโกล เกาหลี จีนภาคกลาง และเมืองซานตง เป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเยี่ยน เมื่อ 500 ปีก่อนคริสตกาล
- ราชธานีของราชวงศ์เหลียว ( ค.ศ. 907 - 1125 )
- ราชวงศ์จิน (ค.ศ.1115 - 1234 )
- ราชวงศ์หยวน ( ค.ศ. 1279 - 1368 )
- ราชวงศ์หมิง ( ค.ศ. 1368 - 1644 )
- ราชวงศ์ชิง ( ค.ศ. 1644 - 1911 )
หลังการปฏิวัติล้มล้างระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช และการสู้รบกลางเมือง ค.ศ. 1942 ซึ่งตรงกับ พ.ศ. 2492 พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ชัยชนะ ประกาศตั้งรัฐบาล และกรุงปักกิ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศนับแต่บัดนั้น
กรุงปักกิ่งมีฐานะเป็นเขตปกครองพิเศษที่เรียกว่า มหานคร ขึ้นตรงต่อรัฐบาลกลาง ปัจจุบันเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของ พรรคคอมมิวนิสต์ในจีน องค์กรสูงสุดของประเทศ รัฐบาลกลาง หน่วยงานบริหารระดับสูง สถานฑูต และองค์กรนานาชาติ ด้วยเนื้อที่ 16,800 ตารางกิโลเมตร ปักกิ่งแบ่งย่อยเป็น 6 เขต คือ
ด้านตะวันตก
|
ด้านตะวันออก
|
เชวียนอู่
|
เฉาหยาง
|
ฉงเหวิน
|
ไห่เตี้ยน
|
พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ปรับปรุง ฟื้นฟูปักกิ่งด้วยเทคโนโลยีที่ได้รับความช่วยเหลือจากรัสเซีย มีการเวรคืนบ้านเรือน ทุบกำแพงเมืองเก่าเพื่อขยาย และตัดถนนสายใหญ่ ทำให้ตัวเมืองถูกแบ่งออกคล้ายตารางสี่เหลี่ยม แสดงถึงรากฐานความเชื่อดั้งเดิมที่ว่า โลกมีลักษณะเป็นทรงจัตุรัส เมืองของจีนโดยเฉพาะเมืองหลวงต้องมีรูปแบบเป็นทรงจัตุรัส เพื่อให้สอดคล้องกับระเบียบจักรวาล มีการก่อสร้างอนุสรณ์สถาน และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพิ่มขึ้นมากมาย ระยะเวลาเพียง 1 ส่วน 4 ศตวรรษ พื้นที่ส่วนหนึ่งของปักกิ่ง เต็มไปด้วยตึกระฟ้า ช้อปปิ้งมอลล์ อาคารสำนักงาน สถานฑูต และอพาร์ตเมนต์ทันสมัย ในขณะที่อีกส่วนหนึ่ง ยังคงดำรงสภาพบ้านชั้นเดียวหลังเล็กๆ หลังคามุงกระเบื้องสีเทา ที่เรียกว่า ผิงฝาง คงกลิ่นอายวัฒนธรรมเมืองอันเก่าแก่ไว้ได้เป็นอย่างดี
|